Dodow ช่วยปรับจังหวะหายใจ สู่การนอนหลับสนิท Dodow เป็นนวัตกรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการศึกษาเรื่องการนอนที่มีความสอดคล้องกับสุขภาพหัวใจ ผ่านงานวิจัยจำนวนมากว่า 13, 000 ชิ้น โดยหนึ่งในนั้น คือ ดร.
จัดระเบียบชีวิตให้เป็นเวลา ทั้งเรื่องการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย การเข้านอนและการตื่นนอน เพื่อให้ร่างกายปรับให้เกิดความคุ้นเคย 2. เมื่อตื่นนอนแล้วไม่ควรนอนอยู่บนเตียง ควรลุกขึ้นทำกิจกรรมสลัดความขี้เกียจทันที 3. ตื่นนอนเมื่อรู้สึกว่านอนพอแล้ว อย่าพยายามนอนต่อเพื่อชดเชยให้กับการอดนอนในวันที่ผ่านมา 4. หลีกเลี่ยงการนอนกลางวัน ถ้าจำเป็นให้งีบสั้นๆ ไม่ควรนอนกลางวันนานเกิน 1 ชม. และไม่นอนหลังบ่ายสามโมง 5. ปรับสภาพห้องนอนให้เหมาะกับการพักผ่อน เวลานอนต้องไม่มีแสงรบกวน ไม่มีเสียงดัง และมีการระบายอากาศที่ดี 6. ไม่ควรใช้ที่นอนเป็นที่ทำงาน หรือทำกิจกรรมต่างๆ บนที่นอน 7. หยุดทำกิจกรรมต่างๆ ก่อนนอน 30 นาที แต่สามารถอ่านหนังสือ ฟังเพลงเบาๆ ก่อนนอนได้ และไม่ควรดูหรือฟังอะไรที่ตื่นเต้นก่อนนอน 8. หลีกเลี่ยงกิจกรรมกระตุ้นร่างกายหรือจิตใจก่อนนอน เช่น การออกกำลังกาย 9. ไม่ทานอาหารมื้อใหญ่ก่อนนอน แต่ก็ต้องไม่ให้ท้องหิวก่อนนอน 10. ออกกำลังกายให้เข้มข้นสม่ำเสมอทุกวัน แต่ไม่ควรเกิน 19. 00 น. เพราะถ้าออกกำลังกายใกล้เวลานอนจะทำให้หลับยาก 11. เมื่อนอนไม่หลับจริงๆ อย่าบังคับตัวเองให้หลับ ควรลุกขึ้นมาทำอะไรที่สร้างความผ่อนคลาย เช่น อ่านหนังสือจนกว่าจะรู้สึกง่วงอีกครั้งแล้วจึงเข้านอน 12.
พญ. อรพิชญา ไกรฤทธิ์ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล คลิกชมคลิปรายการ "หมู่บ้านอนามัยที่จ. เลยชาวบ้านนอนไม่เกิน6โมงเย็นตื่นตี2: พบหมอรามา ช่วง Rama update" ได้ที่นี่
เดวิด ฮีเบอร์ ประธานคณะกรรมการสถาบันโภชนาการเฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น ที่จะช่วยให้คุณได้นอนหลับอย่างสดชื่นกว่าที่เคย เพื่อสุขภาพใจและกายที่แข็งแรงสดใสทุกวัน 1. เลือกรับประทานอาหารให้ดี เวลาที่รู้สึกวิตกกังวลมาก ๆ ร่างกายจะมีอาการเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย ส่งผลลบต่ออารมณ์ ทำให้เรานอนไม่หลับและทำให้เลือกอาหารการกินที่ดีต่อสุขภาพได้น้อยลง การเลือกรับประทานอาหารให้ดีจะช่วยให้คุณรับมือกับความเครียดได้ง่ายขึ้น อีกทั้งช่วยให้คุณเปลี่ยนวิธีจัดการกับความเครียดได้ดีขึ้นด้วย แนะนำให้หยุดรับประทานอาหารหรือขนมก่อนเข้านอนอย่างน้อย 3 ชั่วโมง เพราะจะช่วยให้ร่างกายปรับสมดุลการย่อยอาหาร และเลี่ยงอาการจุกเสียดท้องที่คอยรบกวนเวลานอนยามค่ำคืน 2. หมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอ การออกกำลังกายมีประโยชน์สำคัญต่อสุขภาพหลายประการ หนึ่งในนั้นคือช่วยให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายก่อนจะนอนหลับ เมื่อคุณออกกำลังกาย ร่างกายจะหลั่งสารเอ็นโดรฟินที่กระตุ้นให้เรารู้สึกอารมณ์ดี สำหรับบางคน การออกกำลังกายเบา ๆ และไม่ต้องใช้แรงมาก เช่น โยคะ พีลาทิส หรือเดินเล่นในสวนสาธารณะ ก็เป็นวิธีคลายความเครียดที่ดีที่สุดแล้ว ในขณะที่บางคนอาจชอบการออกกำลังกายที่ใช้แรงมาก เช่น ยกเวท 3.
ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ มีข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับการนอนหลับที่ดี มีคุณภาพ เพื่อช่วยให้ร่างกายหลับลึก และได้พักผ่อนได้อย่างเต็มที่จริงๆ ซึ่งการนอนหลับที่ดีแบบนี้จะส่งผลให้ร่างกายซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ฟื้นฟูให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง ส่วนจะต้องทำยังไงบ้าง? มาดู... 1. นอนให้ได้ 7-8 ชั่วโมง หลักสำคัญของการนอน ต้องคำนึงอยู่ 2 อย่าง คือ 'ชั่วโมงการนอน' และ 'คุณภาพการหลับ' ถ้าจะให้สมบูรณ์แบบควรนอนให้ได้ 7-8 ชั่วโมง และหลับสนิทอย่างมีคุณภาพ 2. นอนครบวงจรการหลับ ร่างกายของคนเราจะมีวงจรการหลับอยู่ 3 ระยะ คือ ระยะการหลับตื้น ระยะการหลับลึก และระยะหลับฝัน การนอนที่ดีมีคุณภาพควรนอนหลับให้ครบทั้ง 3 ระยะ เพราะทุกระยะมีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกัน 3.
5 เท่า 5.
เข้านอนตามนาฬิกาชีวิต อย่างที่บอกไปว่าควรนอนให้เพียงพอ 7-8 ชั่วโมงต่อวัน แต่ไม่ใช่ว่าจะนอนเวลาไหนก็ได้ เพราะร่างกายของคนเรามีนาฬิกาชีวิตอยู่ ควรนอนในเวลานอน และควรตื่นในเวลาตื่น นั่นคือช่วงประมาณ 22. 00 น. จนไปถึง 05. 00-06. ในเช้าวันถัดไป เพราะในช่วงกลางดึกที่ร่างกายหลับสนิท อวัยวะสำคัญๆ ในร่างกาย เช่น หัวใจ ตับ ไต ลำไส้ ได้ถึงเวลาพักผ่อน และจะซ่อมแซมฟื้นฟูตัวเองให้แข็งแรงในช่วงเวลากลางคืนเท่านั้น แต่หากคุณนอนกลางวัน (แม้ว่าจะนอนครบ 8 ชม. ก็ตาม) อวัยวะเหล่านั้นจะไม่มีการฟื้นฟูตัวเอง ยังคงทำงานหนักต่อไป 5. นอนชดเชยได้ แต่ต้องนอนให้เป็น หากช่วงไหนที่เราอดนอนติดกัน 2-3 วัน ควรนอนชดเชยให้เหมาะสม ในวันถัดไปควรนอนชดเชยให้ได้ครบ 8 ชม. โดยห้ามมีอะไรมารบกวนเลย แต่ถ้านอนน้อย และอยากนอนชดเชยระหว่างวัน อันนี้ไม่แนะนำให้ทำ เพราะการนอนจะเป็นแบบหลับๆ ตื่นๆ หรือสะดุ้งตื่นเป็นพักๆ ซึ่งเป็นการนอนในระยะ 'หลับตื้น' เท่านั้น ส่งผลให้ระบบหายใจและหลอดเลือดทำงานหนัก กลายเป็นว่าตื่นมาแล้วรู้สึกเพลียแทนที่จะรู้สึกสดชื่น ถ้าเป็นแบบนี้บ่อยๆ จะส่งผลให้ร่างกายอ่อนแอ เสี่ยงต่อโรคร้ายต่างๆ เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหลอดเลือดสมองอุดตัน โรคหลอดเลือดหัวใจ รู้อย่างนี้แล้ว... จากนี้ไปอยากให้สาวๆ วัยทำงานหันมาใส่ใจการนอนหลับให้มากขึ้น เพราะนอกจากต้องนอนให้เพียงพอครบชั่วโมงแล้ว ก็ต้องนอนให้มีคุณภาพครบวงจรการนอนหลับด้วยนะคะ.
การนอนหลับเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุดสำหรับร่างกาย แต่บางคนก็อาจมีปัญหาการนอนที่เกิดจากโรคนอนไม่หลับ หรือเกิดจากอาการนอนกรนที่มีความรุนแรง ( อ่านวิธีแก้นอนกรนได้ที่นี่) ทำให้นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ขณะที่บางคนก็มีปัญหาการนอนมากเกินไป เมื่อตื่นขึ้นมาทำให้ไม่รู้สึกสดชื่นนั่นคือการนอนติดต่อกันเกินกว่า 12 ชั่วโมง ซึ่งเกิดจากพฤติกรรมการทำงานและการใช้ชีวิตที่ไม่เป็นไปตามธรรมชาติ เราจะเห็นได้ว่าจำนวนชั่วโมงการนอนไม่สำคัญเท่าการนอนให้เต็มตื่น และนั่นคือการนอนหลับที่มีคุณภาพนั่นเอง การนอนหลับที่มีคุณภาพเป็นอย่างไร?
เรียกว่าเป็นการนอนหลับที่มีคุณภาพ เรื่องนี้มีคำตอบจาก อ. พญ. อรพิชญา ไกรฤทธิ์ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ที่อธิบายเอาไว้ในบทความวิชาการของ RAMA Channel ระบุว่า โดยปกติวงจรการ นอนหลับ ของคนเราแบ่งออกเป็น 2 วงจร ได้แก่ 1. Non-Rem Sleep คือ ช่วงของการหลับตื้นไปจนถึงการหลับลึก 2.
eyetracker.app, 2024