6. การรับมือเมื่อถูกขัดจังหวะขณะที่เรากำลังพูด การถูกขัดจังหวะหรือมีคนอื่นพูดแทรกขึ้นมาตอนที่เรายังพูดไม่จบ เป็นสถานการณ์ที่เราเจอกันบ่อย ๆ ซึ่งนอกจากจะเป็นการเสียมารยาท ทำให้คนที่พูดต้องสะดุดแล้ว ยังทำให้ต้องเสียเวลาและพลังงานในการพากลับเข้าเรื่องที่กำลังคุยกันอยู่อีกด้วย และนี่คือ 3 วิธีการพูดเพื่อรับมือกับสถานการณ์แบบนี้ 1. บอกสิ่งที่เรากำลังจะพูดต่อออกมา โดยเริ่มด้วยประโยคว่า "As I was saying... " "ที่ฉันกำลังจะพูดก็คือ... " 2. ถ้าเขายังขัดไม่เลิก ให้พูดออกไปว่า "Can we comeback to that point later? " "ไว้ค่อยคุยเรื่องนั้นกันนอกรอบได้ไหม? " เพื่อให้เขารู้ว่าเรื่องที่เขาพูดแทรกขึ้นมานั้นสามารถพูดทีหลังได้ 3. ในกรณีที่ไม่หยุดก่อกวนจริง ๆ ก็ต้องบอกไปตรง ๆ เลยว่าให้ช่วยฟังที่เราพูดให้จบก่อนได้ไหม "Could you let me finish what I was saying? " 7. การพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น การทำงานกับปัญหาต่าง ๆ เป็นของที่มาคู่กันอยู่แล้ว ทำให้เราจะต้องมีการพูดคุยกันในทีมเพื่อรับรู้ปัญหาและหาทางแก้ ซึ่งประโยคที่มักจะคุ้นเคยกันก็คือ "Talk about a problem" แต่ถ้าอยากจะให้ฟังดูเป็นทางการมากขึ้น เราควรจะเปลี่ยนเป็น "Address an issue" แทน ซึ่งสามารถใช้ได้ในทั้งในกรณีที่ต้องการจะบอกว่าเรารับรู้ถึงปัญหา อภิปราย และหาทางแก้ไข ตัวอย่างประโยค เช่น "Let's address this issue at the next meeting. "
ความขัดแย้ง เป็นประเด็นอมตะ เพราะตั้งแต่เกิดเป็นมนุษย์ขึ้นมาเราย่อมเจอความขัดแย้งเสมอ เพราะเมื่อมีคนที่มีความแตกต่างกัน มาอยู่ร่วมกันโดยเฉพาะมาทำงานร่วมกัน มักเกิดความขัดแย้งขึ้น หากเอ่ยถึงความขัดแย้ง จะมีมุมมองด้วยกัน 2 มุมมอง คือ บทความธรรมะ Dhamma Articles > Review รายการ [ 9 ก. พ. 2554] - [ ผู้อ่าน: 19612] ความขัดแย้งกับการสร้างทีม ความขัดแย้ง เกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา ความขัดแย้งเป็นประเด็นอมตะเพราะตั้งแต่เกิดเป็นมนุษย์ขึ้นมาเราย่อมเจอความขัดแย้งเสมอ เพราะเมื่อมีคนที่มีความแตกต่างกัน มาอยู่ร่วมกันโดยเฉพาะมาทำงานร่วมกัน มักเกิดความขัดแย้งขึ้น หากเอ่ยถึงความขัดแย้ง จะมีมุมมองด้วยกัน 2 มุมมอง คือ 1. มองว่าตัวความคิดคือตัวเรา ถ้าใครคิดไม่เหมือนก็ไปอยู่ฝ่ายตรงข้าม เป็นศัตรูกับเราโดยตรง มุมมองลักษณะอย่างนี้จะทำให้การบริหาร ความขัดแย้ง เป็นไปด้วยความยากลำบาก และเป็นมุมมองของการต่อสู้ ฟาดฟันกัน 2. มองว่าจริงๆ แล้วมันมีความจริงอยู่ แต่ไม่ได้เป็นสิ่งที่ถูกที่สุด คือทุกอย่างเป็นความจริงอันนี้ก็จริงอันนั้นก็จริง ไม่มีอะไรถูกทีสุด เพราะฉะนั้นเวลามีปัญหากันก็แค่เอามาแสดงออก แล้วสามารถทะเลาะกันบนโต๊ะได้ พอจบจากโต๊ะไปก็สามารถนั่งกอดคอ กินข้าวกันได้ สาเหตุของความขัดแย้งมีด้วยกันหลากหลาย ตัวอย่างเช่น 1.
เชื่อหรือไม่ว่า ทุกๆนาที มีความขัดแย้งเกิดขึ้นทั่วทุกมุมโลก ในคนทุกเพศทุกวัย ทุกสาขาอาชีพ ทุกวัฒนธรรมความเชื่อ อาจเป็นความขัดแย้งเล็กๆน้อยในครอบครัว ที่ทำงาน เพื่อนฝูง เพื่อนบ้าน ไปจนถึงความขัดแย้งใหญ่ๆระดับประเทศ อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งถือเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นในสังคมมนุษย์ที่มีความคิดเห็นต่างกัน แต่ไม่ว่าความขัดแย้งนั้น เกิดขึ้นระหว่างคุณกับบุคคลอื่น หรือคุณรับทำหน้าที่เป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยความขัดแย้งในหมู่เพื่อนฝูง เพื่อนร่วมงาน ลูกค้า ญาติพี่น้อง ฯลฯ ลองเลือกนำวิธีเหล่านี้ไปใช้ บางทีอาจช่วยคลี่คลายปัญหาความขัดแย้งลงได้บ้าง 1. คุยกันต่อหน้า เมื่อคุณมีปัญหาขัดแย้งกับผู้อื่น ควรพูดคุยกันต่อหน้า ซึ่งจะช่วยหลีกเลี่ยงการเข้าใจผิดกันได้เป็นอย่างดี ไม่ควรใช้วิธีส่งข้อความผ่านทางอีเมล จดหมาย โทรศัพท์ หรือพูดผ่านบุคคลที่สาม ซึ่งอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดกันมากยิ่งขึ้น เนื่องจากการส่งข้อความหรือพูดคุยกัน โดยอีกฝ่ายไม่เห็นสีหน้าท่าทางของคุณ ที่บ่งบอกถึงความเห็นอกเห็นใจหรือความเข้าใจนั้น อาจยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงกว่าเดิม 2. เจรจาในที่ส่วนตัว การเจรจาข้อพิพาทในสถานที่เปิด อาจมีตัวแปรอื่นๆยั่วยุให้เกิดข้อขัดแย้งเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น ทางที่ดีควรหาสถานที่ที่เป็นส่วนตัว ที่คู่กรณีสามารถพูดคุยกันได้อย่างเต็มที่ เพราะบ่อยครั้งที่ความคิดเห็นจากบรรดาเพื่อนร่วมงาน เพื่อนฝูง หรือคนรอบข้าง ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับความขัดแย้ง อาจทำให้บรรยากาศในการแก้ไขปัญหา แย่ลงกว่าเดิม 3.
ใช้ "weigh in" เพื่อขอความเห็น "Would you like to weigh in on this? " "ใครมีข้อเสนอแนะอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้างไหม? " 2. บอกว่าเราอยากฟังความคิดของเขา "I would love to hear your thoughts. " "ฉันอยากจะได้ความคิดเห็นจากคุณ" หรือ "Let's hear everyone's thoughts on this. " "เรามาฟังความคิดเห็นจากทุกคนกันดีกว่า" 3 ใช้คำว่า Opinion ในการถาม "Do you have an opinion on this issue? " "คุณมีความคิดเห็นยังไงในประเด็นนี้" บางคนเลือกที่จะใช้คำว่า Input ที่แปลว่าข้อมูล ไอเดีย หรือคำแนะนำ ในประโยคที่ขอความคิดเห็น ซึ่งการใช้คำนี้นั้นไม่ผิด แต่ต้องระวังอย่าเติม S หลังคำว่า Input เด็ดขาด 3. การโต้แย้งแบบสุภาพ การมีความคิดเห็นไม่ตรงกันในการทำงานนั้นเกิดขึ้นได้เสมอ แต่การจะบอกคนอื่นว่าเราไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เขาทำ พูด หรือนำเสนอนั้น ไม่ใช่เรื่องที่จะพูดออกมาง่าย ๆ เพราะเราอาจจะกังวลว่ามันจะทำให้คนฟังไม่พอใจ แต่ยังไงก็ตามเรายังสามารถพูดออกมาด้วยประโยคที่ฟังดูเป็นมืออาชีพได้ ด้วย 3 วิธีนี้ 1. "Have you considered…? " วิธีนี้คนฟังจะรู้สึกเหมือนว่าเราถาม และตอบข้อสงสัยเราโดยไม่รู้สึกว่าถูกเราโจมตี เช่น "Have you considered whether this color fits in with the rest of our color palette? "
eyetracker.app, 2024