ปากแมลง แมลงที่มีหัวงุ้มลง เช่น ตั๊กแตน แมลงวัน ปากที่อยู่ปลายสุดจะยื่นลงไปด้านล่าง หากมีหัวเชิดไปข้างหน้า เช่น แมลงหนีบ และด้วงเขี้ยวกาง จะเห็นปากเชิดอยู่ข้างหน้าสุด รูปร่างของปากแมลง มีลักษณะแตกต่างกันไปหลายรูปแบบ ส่วนต่างๆ ของปากจะมีรูปร่าง ที่เหมาะแก่การกินอาหาร ซึ่งแตกต่างกันไปแล้วแต่ชนิดของอาหารที่กินเข้าไป นักวิทยาศาสตร์ได้จัดแบบปากของแมลงตามลักษณะที่กินอาหาร ดังนี้ ๑. ปากแบบกัดเคี้ยว เช่น ปากตั๊กแตน มีริมฝีปากบน และริมฝีปากล่าง เป็นแผ่นแบน ปิดด้านบน และด้านล่าง มีขากรรไกรคู่หน้าที่เป็นก้อนแข็ง หนา ใช้บดอาหาร และขากรรไกรคู่หลังเป็นแผ่นแบน ขอบคม ใช้สำหรับกัดอาหารให้ขาด จึงสามารถกัดและเคี้ยวกินใบพืชต่างๆ ได้ดี แมลงขยับขากรรไกรที่เป็นคู่นั้น กัดหรือเคี้ยวกินทางข้าง จึงผิดกับปากของคน ที่ขยับขากรรไกรทั้งบนและล่างเวลาเคี้ยวหรือกัดกิน ๒. ปากแบบเจาะดูด เช่น ปากของยุง มีริมฝีปากบนยาวเป็นรูปสามเหลี่ยม ขากรรไกรยาวและโค้งคล้ายท่อผ่าซีก ที่ปลายบางส่วนก็แหลมคล้ายเข็มบ้าง คล้ายใบมีด และคล้ายใบเลื่อยบ้าง สามารถตัดเจาะเนื้อคนหรือสัตว์เข้าไป และสามารถประกบเป็นท่อดูดเลือดได้ ส่วนริมฝีปากล่างเป็นท่อยาวคล้ายปลอก ซึ่งยุงสามารถสอดส่วนต่างๆ ของปากเข้าไป เก็บได้ จึงเรียกปากของยุงว่า แบบเจาะดูด ๓.
เชียงใหม่ กรมส่งเสริมการเกษตร/ ศูนย์วิจัย เอสวี. กรุ๊ป
การกินอาหารของแมลง การกินของแมลง แมลงที่ล่าเหยื่อเป็นอาหารจะมีฟันกรามที่แหลมคม ใช้ สำหรับแทง จับ ยึด และเคี้ยวเหยื่อที่จับได้ แมลงที่กัดกินพืช จะมีกรามที่ทู่กว่าใช้ ในการบดอาหาร ส่วนต่างๆ ของปากจะมีรูปร่างที่เหมาะแก่การกินอาหาร ซึ่งแตกต่างกันไป แล้วแต่ชนิดของอาหารที่กินเข้าไป นักวิทยาศาสตร์ ได้จัดแบบปากของแมลงตาม ลักษณะที่กินอาหาร ดังนี้ 1. ปากแบบกัดเคี้ยว เช่น ปากตั๊กแตน มีริมฝีปากบนและริมฝีปากล่างเป็น แผ่นแบนปิดด้านบนและด้านล่าง มีขากรรไกรคู่หน้าที่เป็น ก้อนแข็ง หนา ใช้บดอาหาร และขากรรไกรคู่หลังเป็นแผ่นแบน ขอบคม ใช้สำหรับกัดอาหารให้ขาด จึงสามารถ กัด และเคี้ยวกินใบพืชต่าง ๆ ได้ดี ปากแบบกัดเคี้ยว ของตั๊กแตน 2. ปากแบบเจาะดูด เช่น ปากของยุง มีริมฝีปากบนยาวเป็นรูปสามเหลี่ยม ขากรรไกรยาวและโค้งคล้ายท่อผ่าซีก ที่ปลายบางส่วน ก็แหลมคล้ายเข็มบ้าง คล้าย ใบมีดและคล้ายใบเลื่อยบ้าง สามารถตัดเจาะเนื้อคนหรือสัตว์เข้าไป และสามารถ ประกบเป็นท่อดูดเลือดได้ ปากแบบเจาะดูดของยุง 3. ปากแบบกัด – เลียดูด เช่น ปากของผึ้งและแมลงภู่ เป็นปากแบบผสม กล่าวคือ ขากรรไกรคู่หน้าแบน บาง ขอบคมคล้ายใบมีด กัดก้านเกสรดอกไม้ให้ขาดได้ ขากรรไกรคู่หลังและริมฝีปากล่างยาวประกบเป็นท่อ ภายในมีลิ้นยาวคล้ายเส้นด้าย ยืดหดได้ทำให้สามารถกัด เลีย และดูดน้ำหวานได้ ปากแบบกัด – เลียดูด ของผึ้ง 4.
การปรับตัว ความหมายของการปรับตัว การปรับตัว (Adaptation) หมายถึง กระบวนการที่สิ่งมีชีวิตมีการเปลี่ยนแปลงหรือปรับลักษณะบางประการให้เข้ากับ สภาพแวดล้อมที่อาศัยอยู่ซึ่งลักษณะที่เปลี่ยนแปลงไป ดังกล่าวจะอำนวยประโยชน์แก่ชีวิตในแง่ของการอยู่รอดและสามารถสืบพันธุ์ต่อไปได้ ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการอยู่รอดของสิ่งมีชีวิตมีหลายประการ ได้แก่ การแสวงหาอาหาร การสืบพันธุ์ การต่อสู้กับศัตรู และการหลบหลีกศัตรู หรือสิ่งแวดล้อม สิ่งมีชีวิตมีการปรับตัว ดังนี้ 1. การเกิดและการคงรูปร่าง ท่าทาง ลักษณ ะ หรือหน้าที่ ของสิ่งมีชีวิตในประชากร ทำให้เหมาะสมและสามารถดำรงชีพอยู่ได้ในสภาวะแวดล้อมนั้นๆการปรับตัวชนิดนี้เกิดจากการคัดเลือกโดยธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตที่แปรผันทำให้เกิดความแตกต่างกันทางพันธุกรรม 2. ลักษณะทางสรีรวิทยา พฤติกรรมหรือสัณฐาน ซึ่งควบคุมโดยพันธุกรรม เอื้ออำนวยให้สิ่งมีชีวิตชนิดนั้นๆอยู่ได้ในสภาวะแวดล้อมอย่างเหมาะสมจนกระทั่งสืบพันธุ์ได้ 3.
2530. บทปฏิบัติการ กีฏวิทยาทางการเกษตร. ภาควิชากีฏวิทยา คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. 209 หน้า ทัศนีย์ แจ่มจรรยา. 2533. บทปฏิบัติการกีฏวิทยาเบื้องต้น. ภาควิชากีฏวิทยา คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น. 168 หน้า
eyetracker.app, 2024