ขอขอบคุณรองเท้าวิ่งจากร้าน Ari Running Concept Store Altra Timp 1. 5 W, On Cloudventure W, Adidas UltraBoost X All Terrain และ Adidas UltraBoost W ขอขอบคุณรองเท้าวิ่งจากร้าน JD Sports Puma Defy Luxe Wn's, Nike Future Fast Racer EXP-X14 ripstop, Adidas UltraBoost Uncaged W, Nike Air Zoom Pegasus 35, Adidas UltraBoost W, Nike Air Max 270, Adidas Pureboost Go, Nike Epic React Flyknit และ Adidas UltraBoost Laceless W
รองเท้าวิ่ง Asics Gel-Nimbus 22 ปกติถ้าเราจะเลือกรองเท้าวิ่งจากแบรนด์ Asics ตระกูลแรกที่เราได้ยินกันบ่อยๆก็คือ Gel-Nimbus ซึ่งเป็นเทคโนโลยี GEL ที่แบรนด์เคลมว่าเบาเหมือนก้อนเมฆ (Nimbus) เทคโนโลยีสำคัญของรองเท้าวิ่งคู่นี้อยู่ที่แบรนด์ได้ย้าย Flytefoam Propel ไปไว้ตรงตำแหน่งที่ไกล้พื้นเพื่อรองรับแรงกระแทกและส่งแรงกลับให้แก่นักวิ่ง ผสานพื้นรองเท้าเข้าหากันด้วยวัสดุเจล รับน้ำหนักและช่วงให้สรีระเท้าเคลื่อนไหวได้อย่างเป็นธรรมชาติ แม้จะเป็นเจล แต่น้ำหนักเฉลี่ยก็อยู่ที่ประมาณ 255 กรัมเองนะ 5.
Nike: React Escape Run รองเท้าวิ่งที่ออกแบบมาให้เหมาะกับการวิ่งบนพื้นถนน ดีไซน์และการตัดเย็บโดดเด่นด้วยส่วนหุ้มข้อที่กว้างขึ้นและรายละเอียดแบบปัก โดยมีพื้นโฟมที่มีสัมผัสนุ่มช่วยลดแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี ช่วยลดอาการบาดเจ็บขณะวิ่ง อีกทั้งรูปร่างหน้าตายังมีความทันสมัยจนใครเห็นเป็นต้องเหลียวมอง! ราคายังสบายกระเป๋าเพียง 3, 600 บาท ภาพจาก: 2. Adidas: Ultraboost หลายคนคงจะคุ้นหูกันดีกับรองเท้าวิ่งตระกูล ULTRABOOST ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น และไม่เหมือนใครด้วยอัปเปอร์ส่วนบนทำจากผ้าถักที่ช่วยเพิ่มความกระชับให้กับเท้า มีน้ำหนักเบา และระบายอากาศได้ดี โดยถูกออกแบบมาเพื่อวิ่งในอากาศร้อนโดยเฉพาะ ซึ่งเหมาะกับสภาพอากาศบ้านเราสุด ๆ โดยราคาอยู่ที่ 6, 500 บาท ภาพจาก: 3. New Balance: Fresh Foam 1080v11 รองเท้าวิ่งที่โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ที่เพรียวบางเพื่อให้ผู้สวมใส่รู้สึกเบาสบายขณะวิ่ง ซึ่งเหมาะสำหรับการวิ่งระยะไกล ในส่วนของอัปเปอร์มีความยืดหยุ่นสูง สามารถระบายอากาศได้อย่างดีเยี่ยม มาพร้อมพื้นรองเท้าที่ทำมาจากโฟมน้ำหนักเบา ช่วยลดแรงกระแทกและให้การตอบสนองได้ดี โดยมีให้เลือกทั้งหมด 4 สี คือ สีขาว, สีดำ, สีฟ้า และสีฟ้าอ่อน บอกเลยว่าสวยทุกสี ราคาอยู่ที่คู่ละ 4, 500 บาท ภาพจาก: 4.
เลือกรองเท้าที่กระชับ รองเท้าวิ่งควรเป็นรองเท้าที่กระชับไม่รู้สึกถึงการบีบรัดมากจนเกินไปให้ความรู้สึกที่กระชับบริเวณส้นเท้าและกลางเท้ามีพื้นที่เหลือตรงนิ้วเท้าให้สามารถขยับนิ้วเท้าได้ รองเท้าที่แน่นเกินไปจำทำให้ปวดเท้าได้ 4. คำนึงขนาดของถุงเท้า ขนาดของถุงเท้าที่มีความหนาบางไม่เท่ากัน ส่งผลต่อขนาดของรองเท้า และความสบายในการสวมใส่ อย่างไรก็ตามควรเลือกถุงเท้าที่เหมาะสำหรับการใส่วิ่งโดยเฉพาะจะดีที่สุด 5. วัสดุที่ใช้ในบริเวณหลังเท้า ควรมีความยืดหยุ่น รองเท้าวิ่งที่ดีวัสดุที่ใช้บริเวณหลังเท้าไม่ควรแข็งมากจนเกินไป ควรจะต้องมีความนุ่ม ยืดหยุ่นได้ดี กระชับกับเท้าได้ ควรเป็นเส้นใยที่มีความนุ่มไม่ควรเป็นยางที่แข็งมากจนเกินไป 6. น้ำหนักของรองเท้า น้ำหนักของรองเท้าส่งผลต่อการวิ่งเช่นกัน นักวิ่งสำหรับผู้ที่หัดวิ่งใหม่ๆ และนักวิ่งที่เป็นผู้ที่วิ่งมานาน ความชำนาญจะแตกต่างกัน น้ำหนักรองเท้าสำหรับผู้ที่เริ่มวิ่งควรมีน้ำหนักประมาณ250 – 280 กรัม และมีวัสดุที่รองรับฝ่าเท้าที่มีความหนาเพื่อลดแรงกระแทกเพื่อซัพพอร์ตบริเวณข้อเท้า ข้อเข่า รองเท้าสำหรับมือใหม่ควรมีน้ำหนักเบาเพื่อการเคลื่อนไหวอย่างอิสระ และน้ำหนักรองเท้าสำหรับนักวิ่งโดยเฉพาะควรเลือกรองเท้าที่สามารถรองรับน้ำหนักร่างกายได้ดี โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องเป็นรองเท้าที่มีน้ำหนักเบา 7.
เผยแพร่: 25 ก. ย. 2563 07:11 โดย: ผู้จัดการออนไลน์ รวม 5 รองเท้าวิ่งรุ่นท็อปจากทั้งหมด 5 แบรนด์ที่มีประสิทธิภาพเด่นๆเรื่องใส่แล้ววิ่งเร็ว ใส่แล้วให้สัมผัสนุ่มเด้ง แล้วแต่ความชอบและสรีระเท้าของแต่ละคน ว่าแล้วเราไปดูกันเลยดีกว่าว่ามี รองเท้าวิ่ง รุ่นอะไรติดโพล รุ่นไหนดียังไงบ้าง หากใครที่กำลังหารองเท้าวิ่งอยู่ตอนนี้ก็สามารถเข้าไปหาดูได้ที่ มีจัดโปรโมชั่นลดราคาเพียบเลยนะ 1. รองเท้าวิ่ง Nike Air Zoom Pegasus 37 รองเท้าวิ่งที่ Nike ทำออกมาเพื่อเค้นความเร็วโดยเฉพาะ จัดอยู่ในประเภทรองเท้าสายเพอร์ฟอร์แมนซ์ หัวใจสำคัญที่ทำให้รองเท้าคู่นี้ติดอันดับเลยก็คือ Zoom Air Bag ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ Nike อัดอากาศเข้าไปด้านในแบบเต็มทั้งแผ่น ทำให้รองเท้าสปริงตัวเมื่อได้รับแรงกระแทกขณะวิ่ง คืนพลังงานได้ดีกว่า Nike Pegasus 36 อีกด้วย ทำให้นักวิ่งไม่ต้องออกแรงวิ่งมาก และยังสามารถขับเคลื่อนตัวเองไปข้างหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยรูปทรงของรองเท้าที่โค้งงอ รองรับสรีระเท้าทุกองศาการเคลื่อนไหว ตอนนี้มีจัดโปรอยู่ด้วยนะ 2. รองเท้าวิ่ง Adidas Ultraboost 20 รองเท้า Ultraboost รุ่นที่ 20 นี้เป็นการ Collabกันระหว่าง Adidas และห้องปฏิบัติการแห่งชาติในสหรัฐฯ ถึงกับไปขึ้นพื้น Boost ที่ปราศจากแรงโน้มถ่วงที่สถานีอวกาศนานาชาติเลย จุดเด่นของคู่นี้ก็คือน้ำหนักที่เบามากๆ และการถักหน้าผ้าอัปเปอร์ เพราะ Adidas จัดเรียงเส้นใยผ้าให้แม่นยำและละเอียดในระดับหน่อยมิลลิเมตรด้วยเทคโนโลยี TFP (Tailored Fiber Placement) ช่วยให้รองเท้ายกกระชับและซัพพอร์ทเท้าได้อย่างดีเยี่ยมเลยทีเดียว ในส่วนของพื้นโฟม Boost ได้เสียงจากนักวิ่งหลายคนว่าเป็นชิ้นส่วนที่สปริงตัวแล้วก็คืนพลังงานได้อย่างดีเช่นกัน มีลดราคาอยู่ด้วยนะ 3.
Nike Air Zoom Pegasus 36 ภาพจาก อีกหนึ่งรองเท้าวิ่งยอดนิยม ด้วยรูปทรงที่ดูเพียวสวยงาม เรียกได้ว่าเป็นรองเท้าวิ่งที่นักวิ่งทุกระดับหมายตา สำหรับรุ่นนี้ปรับปรุงและพัฒนามาจาก Pegasus 35 ตัวรองเท้สยังคงมาพร้อมรูระบายอากาศที่มากขึ้น พร้อมตาข่ายตามหลักวิศวกรรมที่ส่วนบน เพื่อการระบายอากาศแบบเป็นระบบอย่างตรงจุดตลอดบริเวณที่มีความร้อนสูง และมีส่วนหุ้มข้อที่ส้นซึ่งบางขึ้นและลิ้นรองเท้า ช่วยลดความเทอะทะแต่ยังคงสวมใส่ได้อย่างสบาย ใช้เชือก Flywire แบบเปลือยให้ความกระชับพอดีเมื่อวิ่งเร็วขึ้น ส่วนสีสันของรองเท้าก็มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีดำ, สีเทา, สีเขียว และสีส้ม ราคา 4, 600 บาท 2.
Nike Zoom Fly 3 หลังจากวิ่งมาสักระยะ อยากทดสอบประสิทธิภาพของตัวเอง ด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้น Zoom Fly 3 จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก การออกแบบรุ่นนี้ได้แรงบันดาลใจจาก Vaporfly โดยให้ความสบายและความทนทานกับนักวิ่งระยะไกลในวันแข่ง มีแผ่นรองคาร์บอนไฟเบอร์ที่ช่วยให้วิ่งได้ตลอดระยะทาง พื้นรองเท้าชั้นกลาง Nike React เต็มความยาวเท้าให้ความสมดุลกับระบบลดแรงกระแทกและการตอบสนองด้วยโฟมน้ำหนักเบาทนทาน ซึ่งช่วยให้การวิ่งมีความนุ่มนวลเป็นพิเศษ ตัวรองเท้ามีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีขาว, สีม่วง, สีเขียว และสีดำ ราคา 5, 800 บาท 5.
เหมาะกับ: คนฝ่าเท้าแบน เป็นรองเท้าที่เน้นรับแรงกระแทก Lightweight Running Shoes ต่อกันเลยกับรองเท้าวิ่งที่เน้นเรื่องน้ำหนักเบา ๆ กันบ้างค่ะ โดยรองเท้าแบบนี้จะเหมาะมากสำหรับพวกนักวิ่งหรือคนที่วิ่งแบบเน้นด้านความเร็ว เพราะเค้าจะมีน้ำหนักเบาและมีคุณสมบัติคล้าย ๆ กับรองเท้าวิ่ง Stability ในเรื่องของการดูดซับแรงกระแทก แต่อาจจะไม่นุ่มนิ่มเท่ารองเท้าวิ่งแบบ Cushioned นะคะ เหมาะกับ: นักวิ่งมาราธอน คนที่เน้นความเร็วเป็นหลัก Stability Running Shoes Adidas UltraBoost Laceless W สุดท้ายยย!
eyetracker.app, 2024